หน้าแรก
ศูนย์สุขภาพครบวงจร ไล้ท์ แล็บ
บริการตรวจสุขภาพบุคคลทั่วไป และตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงด้านอาชีวเวชศาสตร์ สำหรับบริษัทหรือหน่วยงานที่เห็นความสำคัญต่อสุขภาพพนักงานทั้งก่อนเข้างาน และตรวจสุขภาพประจำปีแบบกลุ่มโรงพยาบาล และบริการตรวจสุภาพในและนอกสถานที่ให้บริการตรวจสุขภาพ โดยทีมแพทย์ พยาบาล รถเอกซเรย์เคลื่อนที่ ออกให้บริการที่สถานที่สถานประกอบการ ซึ่งท่านจะได้รับความสะดวกสบายในการรับบริการและไม่เสียเวลา ค่าใช้จ่าย ในการเดินทางมารับบริการที่โรงพยาบาล ท่านจะได้รับความสะดวกรวดเร็วในการตรวจเช็คร่างกายด้วยบริการที่มีคุณภาพแบบครบวงจร
สิ่งอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีทางการแพทย์ของเรา
•การตรวจเอกซเรย์ปอด
• การตรวจสมรรถภาพการมองเห็นด้านอาชีวอนามัย (Occupation Vision)
• การตรวจสมรรถภาพปอด (spirometry)
• การตรวจสมรรถภาพการได้ยิน และรถตรวจการได้ยินเคลื่อนที่ ***มารุ่งโรจน์***
• การตรวจมวลกระดูก
• การตรวจกล้ามเนื้อ มือ ขา และหลัง
• การตรวจคลื่นหัวใจ (EKG)
สถานที่ & ติดต่อ
ศูนย์ตรวจสุขภาพ แผนกการตลาด
Tel. 061-9198256 (คุณอินทิรา)
064-5152770 (คุณประเสริฐ)
www.ddcanterlab.com
- นอกจากนี้ยังจัดให้มีบริการด้านอาชีวอนามัยแบบครบวงจร (Occupational Health Service) ตามสถานประกอบการต่าง ๆ โดยทีมพยาบาลอาชีวอนามัย ตรวจสุขภาพตามความเสี่ยง การตรวจเอกซเรย์ปอด(ด้วยรถเคลื่อนที่)
และตรวจตามความเสี่ยง หู-ตา-ปอด ตามโปรแกรมอาชีวอนามัย ตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงาน
- Mobile check up นอกสถานที่
-
รถตรวจสมรรถภาพการได้ยินโดยเครื่อง (Audiogram)
การตรวจการได้ยินทางอากาศ (air conduction) เป็นการตรวจโดยใช้
ที่ครอบหู (earphones) ครอบหูทั้ง 2 ข้าง เสียงจะเดินทางผ่านจากที่ครอบหูไปยัง
หูชั้นนอก หูชั้นกลางและหูชั้นใน โดยใช้ช่วงความถี่ที่ตรวจคือ 250, 500, 1,000, 2,000,
4,000 และ 8,0000 เฮิรตซ์ ระดับความดังที่ใช้เริ่มตั้งแต่ -10 dBHL ( decibel hearing
level ) จนถึง120 dBHL ในช่วงความถี่ 500- 4.000 เฮิรตซ์ -
การตรวจทดสอบสมรรถภาพปอดโดยเครื่อง (spirometry)
การตรวจทดสอบสมรรถภาพปอดโดยเครื่อง (spirometry) สามารถให้การวินิจฉัยผู้ป่วยที่มีโรคของหลอดลม (เช่น โรคหืด asthma, โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง COPD และ Bronchiectasis) ได้ค่อนข้างดี
หลักการในการอ่านและแปลผล spirometry
1.ตรวจประเมินดูว่า ผู้ป่วยมีภาวะทางเดินหายใจอุดกั้น (Obstruction) หรือไม่
2.หากไม่มีการอุดกั้น ผู้ป่วยมีปัญหาความจุปอดน้อย (Restriction) หรือไม่ และหากมีการอุดกั้นอยู่แล้ว ผู้ป่วยมีปัญหาความจุปอดน้อยร่วมด้วยหรือไม่ (Mixed obstruction and restriction)
3.ความผิดปกติที่ตรวจพบดังกล่าวนั้น มีความรุนแรงมากน้อยเพียงใด (Severity)
4.ผู้ป่วยมีการตอบสนองกับยาขยายหลอดลมหรือไม่ (Bronchodilator response)
5.หากไม่พบความผิดปกติใด ๆ เลยจาก 4 ข้อข้างต้น ผู้ป่วยมีโรคของหลอดลมเล็กส่วนปลาย (Small airway disease) หรือไม่
-
ตรวจสายตาอาชีวอนามัย Optec 5000/5500 Series แบรนด์
-
อบรมรอบรู้เรื่องมะเร็ง
วิธีการการตรวจเต้านมสตรีเพื่อตรวจหาความผิดปกติที่ง่าย และสามารถปฏิบัติได้ด้วยตนเอง คือ การตรวจเต้านมด้วยตนเอง เดือนละ 1 ครั้ง สำหรับสตรีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป โดยอาการที่เกิดจากมะเร็งเต้านมส่วนใหญ่จะพบว่ามีก้อนที่เต้านม มีการดึงรั้งของผิวหนัง หรือมีลักษณะผิดปกติที่ผิวหนัง เช่น มีเส้นเลือดเพิ่มขึ้น หรือมีผิวหนังบวม นอกจากนี้ยังพบมะเร็งที่ส่วนของท่อน้ำนม ซึ่งอาจจะพบว่ามีอาการหัวนมบุ๋มหรือยุบลง หรือมีน้ำหรือเลือดออกจากหัวนม
-
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ Electrocardiography: EKG
เป็นการเครื่องมือตรวจหัวใจเบื้องต้น มีประโยชน์ในการคัดกรองความผิดปกติหัวใจเบื้องต้น การตรวจนี้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้เข้ารับการตรวจและค่าใช้จ่ายไม่สูง ขณะตรวจผู้เข้ารับการตรวจจะอยู่ในท่านอนหงายบนเตียงที่จัดเตรียมไว้เจ้าหน้าที่จะนำขั้วไฟฟ้ามาติดตามตำแหน่งต่างๆ เช่น ที่ข้อมือเท้า และหน้าอก หลังจากนั้นเครื่องจะประมวลผลเป็นกราฟคลื่นหัวใจ เมื่อเสร็จสิ้นการตรวจเจ้าหน้าที่จะนำขั้วไฟฟ้าออกโดยเวลาที่ใช้ในการตรวจประมาณ 5-10 นาที
ข้อมูลที่ได้รับจากการตรวจ
- อัตราการเต้นของหัวใจ
- จังหวะการเต้นของหัวใจ
- การนำกระแสไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ เช่น หัวใจเต้นก่อนจังหวะ
- เคยเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
- อาจจะพบลักษณะคลื่นหัวใจที่แสดงถึงเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจตีบตัน
- กล้ามเนื้อหัวใจหนา กล้ามเนื้อหัวใจโต ห้องหัวใจโตข้อจำกัดของการตรวจ
- การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจสามารถแสดงอัตราการเต้นของหัวใจ จังหวะการเต้นของหัวใจ ขณะทำการตรวจเท่านั้นดังนั้นความผิดปกติที่เกิดขึ้นบางชนิดที่เป็นแค่บางช่วงเวลาการตรวจชนิดนี้อาจจะไม่สามารถตรวจพบได้
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจตีบตันความผิดปกติของหัวใจอื่นๆ อาจจะพบคลื่นไฟฟ้าหัวใจเป็นปกติได้ (ผลลบลวง)
- เมื่อพบว่าคลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติไม่ได้แปลว่าผู้ป่วยมีความผิดปกติของหัวใจจริง จนกว่าจะได้รับการตรวจทางหัวใจชนิดอื่นๆ เพิ่มเติมโดยชนิดการตรวจเพิ่มเติมที่แพทย์ส่งตรวจนั้นขึ้นกับความผิดปกติที่ตรวจพบได้จากการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ผลบวกลวง)
การตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจผ่านผนังทรวงอกส่วนหน้า Transthoracic echocardiography
เป็นการตรวจหัวใจโดยใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูง โดยใช้คลื่นเสียงที่ส่งออกมาแปรเป็นสัญญาณภาพ ทำให้เห็นเป็นภาพการทำงานของหัวใจข้อมูลที่ได้รับจากการตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ
- ข้อมูลด้านกายภาพของหัวใจ ผนังหัวใจ ลิ้นหัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ
- ข้อมูลด้านการทำงานของหัวใจ เช่น การบีบตัว การคลายตัวของหัวใจ ความเร็วและแรงดันที่จุดต่าง ๆ ของหัวใจโดยโรคที่สามารถตรวจพบได้จากการตรวจด้วยเครื่องมือนี้เช่น โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด โรคกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติโรคลิ้นหัวใจผิดปกติทั้งชนิดรั่วและตีบ โรคของเยื่อหุ้มหัวใจเป็นต้น
การเตรียมตัวก่อนการตรวจและการดูแลหลังการตรวจ
- ไม่ต้องงดน้ำและอาหารมาก่อนการตรวจ
- ผู้รับการตรวจควรสวมเสื้อผ้าที่สามารถถอดหรือเปิดบริเวณหน้าอกได้ง่ายเพื่อความสะดวก
- การตรวจใช้เวลาประมาณ 30 นาที -
การตรวจเอกซเรย์ปอด(ด้วยรถเคลื่อนที่)
ประโยชน์ของการเอกซเรย์ปอด
การเอกซเรย์ปอดเป็นหนึ่งในการตรวจสุขภาพประจำปีที่สำคัญในการวินิฉัยข้อมูลให้คนไข้รับทราบสภาวะร่างกายภายในส่วนทรวงอกของตัวเองในปัจจุบันดังต่อไปนี้
*ผู้ป่วยรับทราบระบบการทำงานภายในปัจจุบันของปอดและอวัยวะส่วนอื่น ๆ บริเวณทรวงอก ไม่ว่าจะเป็นระบบการไหลเวียนของเส้นเลือด โครงสร้างกระดูก การทำงานของหัวใจ และระบบทางเดินหายใจที่มีส่วนในการส่งออกซิเจนเข้าสู่ปอด
*ภาพเอกซเรย์ปอดเป็นอีกหนึ่งข้อมูลในการวินิจฉัยโรค ร่วมกับการสังเกตอาการทางกายภาพของคนไข้ เพื่อบ่งชี้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นของอวัยวะภายใน เช่น อาการไอเรื้อรังทางกายภาพของผู้ป่วยสามารถให้ทางแพทย์ทำการเอกซเรย์ปอดเพื่อตรวจเช็คสภาพการทำงานของระบบหายใจได้ถูกจุด
*ภาพเอกซเรย์ปอดยังสามารถช่วยวินิจฉัยโรคที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะส่วนอื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นหัวใจหรือกระดูกที่มีส่วนการทำงานร่วมกับปอด ยกตัวอย่างเช่น โรคมะเร็งลุกลาม การไหลเวียนของหลอดเลือดผิดปกติ และการแตกร้าวของโครงกระดูก
-
ด้านในรถ และการทำงานการเอกซเรย์ปอด